เรียบเรียงโดย
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกรดไหลย้อน จากกาวิสคอน
อาการท้องอืด แน่นท้อง หรือรู้สึกอึดอัดบริเวณช่องท้อง
มักเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับลมหรือระบายแก๊สในกระเพาะ อาหารได้อย่างสมดุล ส่งผลให้เกิดแรงดันภายในจนรู้สึกไม่สบายตัว หลายคนจึงมักตั้งคำถามว่า “แน่นท้องควรทำไง” หรือ “ถ้าแก๊สในกระเพาะเยอะต้องแก้ยังไง?”
อาการเหล่านี้ไม่ได้แค่สร้างความไม่สบายในชีวิตประจำวัน แต่ยังอาจเป็นสัญญาณบอกโรคกรดไหลย้อนซึ่งมักเกิดจากการที่กระเพาะ อาหารหลั่งกรดมากเกินไป จนรบกวนการทำงานของเอนไซม์ย่อยอาหาร ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง จุกเสียด หรือรู้สึกอึดอัดตามมา
วันนี้กาวิสคอน ขอแนะนำ 8 วิธีช่วยบรรเทาอาการแน่นท้อง ท้องอืด ที่อาจเป็นสัญญาณของโรคกรดไหลย้อน พร้อมบอกสาเหตุว่าอาการเหล่านี้ เกิดจากอะไร และจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรให้รู้สึกดีขึ้น
อาการท้องอืดเกิดจากอะไร?
หลายคนอาจสงสัยว่าท้องอืดเกิดจากอะไร? อาการท้องอืด คือความรู้สึกแน่นท้อง รู้สึกเหมือนมีลมหรือแก๊สสะสมในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาการนี้มักเกิดร่วมกับอาการกรดไหลย้อนได้บ่อย
เพราะมีสาเหตุและกลไกที่เกี่ยวข้องกันในระบบทางเดินอาหาร โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องอืด มีทั้งจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัญหาสุขภาพ ดังนี้:
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร: ทานอาหารเร็วเกินไป เคี้ยวไม่ละเอียด ทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีกากใยอาหารมาก รวมถึงดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊ส เช่น น้ำอัดลม เบียร์ หรือแอลกอฮอล์
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร:เช่น โรคกระเพาะ ลำไส้แปรปรวน (IBS) ท้องผูก การขาดเอนไซม์ย่อยแลคโตส รวมถึงโรคกรดไหลย้อน ซึ่งทำให้เกิดอาการแน่นท้อง จุกที่คอ หรือเรอบ่อยได้
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: เช่น ยานอนหลับ ยาคลายเครียด หรือยาที่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร
- สาเหตุอื่น ๆ: เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติได้
8 วิธีไล่ลมในท้องด้วยตัวเองทำอย่างไร
เมื่อทุกคนรู้ถึงสาเหตุอาการท้องอืดแล้ว และกำลังเผชิญกับปัญหาแน่นท้อง คงอยากรู้แล้วว่า แน่นท้องทำไง มาดู 8 วิธีไล่ลมในท้องด้วยตัวเองที่ทำตามได้ไม่ยากกันเลย
1. แก้ท้องอืดโดยการทานอาหารให้ช้าลง
หนึ่งในวิธีไล่ลมในท้อง คือการทานอาหารให้ช้าลง
เนื่องจากการรับประทานอาหารอย่างรีบเร่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการท้องอืด
เพราะเมื่อเราทานเร็วเกินไป มักจะกลืนอากาศเข้าสู่กระเพาะอาหารมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดลมสะสมในกระเพาะจนรู้สึกแน่น
อืด หรือไม่สบายท้อง การแก้ท้องอืดด้วยการทานอาหารให้ช้าลงจึงเป็นวิธีที่ได้ผลและทำได้ง่าย
เพียงตั้งใจเคี้ยวอาหารให้ละเอียดในแต่ละคำ ใช้เวลาพอเหมาะระหว่างคำ และวางช้อนส้อมเป็นช่วง ๆ เพื่อช่วยควบคุมจังหวะการทาน
นอกจากนี้ การทานช้าลงยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
ลดการผลิตแก๊สส่วนเกิน พร้อมทั้งช่วยให้ร่างกายรับรู้ความอิ่มได้ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยป้องกันการกินเกินจำเป็นอีกด้วย
ถือเป็นเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ช่วยลดอาการท้องอืดและส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารในระยะยาวได
2. ลดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส
ท้องอืด วิธีแก้โดยการลดอาหารบางชนิดที่ทำให้เกิดแก๊ส นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
เช่น ทานให้ช้าลง สามารถแก้ปัญหาแน่นท้องทำไง
ด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่ก่อให้เกิดแก๊สหรือลมในกระเพาะหรือลดปริมาณการบริโภคให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็น
- ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก
- ถั่ว เมล็ดพืช และผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิล ลูกแพร์ แตงโม
- อาหารที่มีไขมันสูง และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส
- เครื่องดื่มที่มีแก๊ส เช่น น้ำอัดลม เบียร์ โซดา"
3. แก้ท้องอืดด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics)
ผู้ที่มีอาการท้องอืด วิธีแก้ที่ง่ายและปลอดภัย คือการรับประทานโพรไบโอติกส์ (Probiotics)
คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้องที่เกิดจากลมในกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ที่กำลังหาคำตอบว่า
ท้องอืดแก้ยังไง การรับประทานโพรไบโอติกส์เป็นประจำ เช่น จากโยเกิร์ต นมเปรี้ยว คอมบูชะ หรือผลิตภัณฑ์เสริม
อาหารที่มีจุลินทรีย์มีประโยชน์หลายสายพันธุ์ จะช่วยให้ลำไส้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดการสะสมของแก๊ส
และฟื้นฟูสมดุลระบบทางเดินอาหารโดยรวม นอกจากนี้ โพรไบโอติกส์ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสนับสนุนสุขภาพลำไส้ในระยะยาว
ทำให้เป็นอีกวิธีที่เหมาะสำหรับการจัดการอาการท้องอืดในชีวิตประจำวัน
4. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย คือ วิธีแก้ปัญหา “แน่นท้องทำไง” ที่มีประสิทธิภาพ
และดีต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว
โดยการเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด
มีส่วนช่วยในการขับลมหรือแก๊สในกระเพาะได้เป็นอย่างดี สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยการเดินช้า เล่นโยคะ
แอโรบิก และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี
และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี

5. ดื่มน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล
น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล เป็นวิธีธรรมชาติที่อาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืด และแก๊สได้
โดยการผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลกับน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วดื่มก่อนมื้ออาหารประมาณ 15-30
นาทีหรือเมื่อรู้สึกท้องอืด จะช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น และลดการสะสมของแก๊ส นอกจากนี้
ยังช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
ลดโอกาสการเกิดปัญหาแน่นท้องทำไงได้อีกทางหนึ่ง

6. การนวดท้องด้วยมือ
การนวดท้องด้วยสองมือของเรา เป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดปัญหาแก๊สในกระเพาะเยอะแก้ยังไง สามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังต่อไปนี้
- นั่งหรือนอนในท่าสบาย
- ใช้มือกดเบา ๆ บริเวณหน้าท้อง
- นวดเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา เริ่มจากด้านล่างขวาของหน้าท้องขึ้นด้านบน
- ค่อย ๆ เพิ่มแรงกดตามความเหมาะสม
- นวดต่อเนื่องประมาณ 5-10 นาที
และอีกวิธีแก้ปัญหาแน่นท้องทำไง คือ การนวดแบบ "ILU" โดยใช้นิ้วมือลากเป็นรูปตัว I, L และ U บนหน้าท้องตามแนวของลำไส้ใหญ่ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องอืด และปวดท้องได้


7. นำสมุนไพรมาเป็นเครื่องดื่ม
วิธีแก้ปัญหาแน่นท้องทำไงแบบวิธีพื้นบ้าน คือ การใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยขับลม
และบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด ไม่ว่าจะเป็นขิง ขมิ้น กานพลู สะระแหน่ และอีกมากมาย
โดยสามารถนำสมุนไพรเหล่านี้ ทำเป็นเครื่องดื่มจิบร้อน ๆ บรรเทาอาการหรือนำไปปรุงอาหารได้เช่นกัน

8. การรับประทานยา
สุดท้าย คือ วิธีรับประทานยา เพื่อกำจัดปัญหาแน่นท้องทำไง ลดอาการจุกเสียด
อาหารไม่ย่อย แสบร้อนบริเวณกลางอก จากการที่กระเพาะหลั่งกรดมากเกินไป ทำให้ระบบย่อยอาหาร
โดยเฉพาะเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่
ก็สามารถบรรเทาอาการด้วยยาลดกรดและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนจากประเทศอังกฤษ
เพื่อช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดไหลย้อน ที่มีให้เลือกทั้งแบบชนิดเม็ด และชนิดน้ำ
เพื่อช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดเกิน
อาการท้องอืดแบบไหนที่ควรพบแพทย์
หากทำตามวิธีบรรเทาอาการท้องอืด แน่นท้องเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้ว ยังคงไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ควรรีบพบ
แพทย์ เพื่อตรวจ และรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม รวมถึงแนวทาง แก้ท้องอืด อย่
- อาการท้องอืดที่เกิดขึ้นบ่อยกว่า 3 - 4 ครั้งต่อสัปดาห์หรือเป็นเรื้อรังนานกว่า 2 - 3 สัปดาห์
- อาการท้องอืดที่มาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง มีเลือดปนในอุจจาระ มีไข้สูง เป็นต้น
- ท้องเสียหรือท้องผูกเรื้อรัง มีอาการอาเจียนรุนแรง
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหารหรือรู้สึกอิ่มเร็ว
- มีก้อนหรือบวมที่ท้อง
ปัญหาแน่นท้องทำไง และแก๊สในกระเพาะเยอะแก้ยังไง สามารถบรรเทาได้ด้วย 6 วิธีบรรเทาอาการท้องอืด
แน่นท้องด้วยตัวเองที่กาวิสคอนนำมาฝากในวันนี้ ซึ่งถือเป็น ท้องอืด วิธีแก้ที่ทำได้ง่ายและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม หากอาการยังคงเป็นอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดอาการท้องอืดได้ในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย
1. อาการท้องอืดมักเกิดขึ้นตอนไหนมากที่สุด?
อาการท้องอืดมักเกิดขึ้นทันทีหรือภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
เนื่องจากการย่อยอาหารทำให้เกิดแก๊สสะสมในกระเพาะและลำไส้
2. การปรับพฤติกรรมการนอนช่วยลดท้องอืดได้ไหม?
ได้ค่ะ การนอนให้พอเพียงและนอนในท่าที่เหมาะสม เช่น การนอนยกหัวสูง สามารถช่วยลดแรงดันในกระเพาะ
ลดโอกาสเกิดแก๊สและอาการแน่นท้องในตอนกลางคืน
3. กิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือท่าทางใดบ้างที่ช่วยขับลมออกจากท้อง?
นอกจากออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินหรือยืดเหยียดแล้ว การนั่งตัวตรงหลังอาหาร หรือการทำท่าโยคะบางท่า
เช่น ท่าเข่าชิดอก เป็นวิธีไล่ลมในท้อง ช่วยให้กระเพาะและลำไส้เคลื่อนตัวและขับออกได้ง่ายขึ้น
4. อาการท้องอืดมีผลต่อระบบย่อยอาหารระยะยาวหรือไม่?
หากเป็นอาการท้องอืดเรื้อรังและไม่ได้รับการจัดการ อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือการหลั่งกรดไม่สมดุล
ซึ่งทำให้การย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ ในระยะยาว
5. การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยลดอาการท้องอืดได้จริงหรือไม่?
ใช่ค่ะ การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดการสะสมของแก๊สและอาหารในกระเพาะ
ทำให้การเคลื่อนตัวของลำไส้เป็นไปอย่างราบรื่น ลดอาการแน่นท้อง
แหล่งอ้างอิง:
- การรักษาอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ
- การใช้โภชนบำบัดเพื่อจัดการกับอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ
- ประสิทธิภาพของอาหารหมักดองในการบรรเทาอาการของโรคลำไส้แปรปรวน
บทความที่เกี่ยวข้อง