เรียบเรียงโดย
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกรดไหลย้อน จากกาวิสคอน
รู้หรือไม่ หากคุณกำลังเผชิญกับอาการแสนทรมานจากกรดไหลย้อน สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิต รวมถึงการใช้ยาลดกรด เพราะในปัจจุบันยาลดกรดและบรรเทากรดไหลย้อนบางชนิดยังผลิตจากตัวยาที่สกัดมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น สาหร่ายสีน้ำตาลจึงมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง แล้ววิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติมีอะไรบ้าง? วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 8 วิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก
กรดไหลย้อนเกิดจากอะไร?
ก่อนจะไปดูวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติ มาดูกันว่า กรดไหลย้อนเกิดจากอะไร? กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เกิดจากกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหารเนื่องจากกล้ามเนื้อหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร (Lower Esophageal Sphincter: LES) ทำงานผิดปกติหรือหย่อนตัวลง ส่งผลให้กรดสร้างความระคายเคืองกับผนังหลอดอาหาร รวมถึงมีอาการอื่น ๆ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อยจากกรดเกิน แน่นท้อง จุกเสียด จุกแน่นลิ้นปี เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก แสบคอ จุกแน่นในลำคอ กลืนลำบาก เป็นต้น โดยกรดไหลย้อนมีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง เช่น
- พฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิต: กินแล้วนอนทันที กินในปริมาณมากเกินไปในมื้อเดียว กินไม่เป็นเวลา กินอาหารมัน อาหารทอด อาหารรสจัด หรือผลไม้รสเปรี้ยว และดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึงดื่มแอลกอฮล์ และมีพฤติกรรมสูบบุหรี่
- น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน: หากน้ำหนักตัวมากหรือเป็นโรคอ้วนจะเพิ่มแรงดันในช่องท้องสูงขึ้น กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ง่าย
- การสะสมความเครียด: หากมีความเครียดสะสมจะกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น
- อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์: เมื่อมดลูกขยายตัว จะเพิ่มความดันในช่องท้อง ส่งผลให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน
- การใช้ยาบางชนิด: อาจมีผลข้างเคียง ทำให้เป็นกรดไหลย้อน
วิธีการรักษาและป้องกันกรดไหลย้อนด้วยตัวเองแบบธรรชาติ ทำได้อย่างไร?
มาดู 8 วิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติไปพร้อมกัน
1. การใช้ยาลดกรดและบรรเทากรดไหลย้อน
วิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติที่เห็นผลรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ คือ การใช้ยาลดกรดและบรรเทากรดไหลย้อนจากประเทศอังกฤษ โดยควรเลือกชนิดที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติอย่างสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาลจากประเทศนอร์เวย์ เพราะนอกจากจะปลอดภัย สามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และเด็ก (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้) โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาวแล้ว ยังมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสาหร่ายสีน้ำตาลจากประเทศนอร์เวย์นี้ จะช่วยสร้างแพเจลป้องกันกรดไหลย้อนที่แข็งแรงกว่า จึงทำให้ป้องกันกรดไหลย้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานกว่า
2. การใช้สมุนไพรพื้นบ้าน
สมุนไพรใกล้ตัวหรือสมุนไพรพื้นบ้านบางชนิดก็มีส่วนช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้เบื้องต้น เช่น น้ำขิงที่จะช่วยให้รู้สึกสบายท้องมากยิ่งขึ้น กล้วยที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันท้องผูก ช่วยเคลือบเยื่อบุหลอดอาหาร ลดอาการระคายเคือง และขมิ้นชันที่ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ กระตุ้นการหลั่งเมือกในกระเพาะอาหาร
3. การปรับพฤติกรรมการกิน
อีกหนึ่งวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติที่สามารถลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอาการได้อย่างตรงจุด คือ การปรับพฤติกรรมการกิน ไม่ว่าจะเป็น
- หลีกเลี่ยงการล้มตัวนอนทันทีหลังมื้ออาหาร ควรเว้นระยะหลังอาหารอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมงก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารปริมาณมากในคราวเดียว และกินอาหารเร็วเกินไป สามารถแบ่งมื้ออาหารเป็นหลาย ๆ มื้อ และเคี้ยวให้ละเอียด
- หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ เช่น อาหารรสจัด มะเขือเทศ ช็อกโกแลต คาเฟอีน อาหารไขมันสูง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง
4. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายก็นับว่าเป็นวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติที่ทุกคนสามารถทำตามได้ โดยการเล่นโยคะบางท่า มีส่วนช่วยบรรเทาอาการทางระบบย่อยอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นท่าโยคะอย่าง Trikonasana ซึ่งเป็นท่าที่จะช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย กระตุ้นการทำงานของอวัยวะในช่องท้อง รวมถึงท่าโยคะอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม หากมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำกิจกรรม
5. การปรับท่าทางในการนอน
ใครที่ประสบปัญหากรดไหลย้อนตอนกลางคืนหรือตอนนอน สามารถบรรเทาได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติอย่างการปรับท่าทางการนอน โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- นอนตะแคงซ้าย เพราะเมื่อนอนท่าตะแคงซ้าย ตำแหน่งของหูรูดหลอดอาหารจะอยู่สูงกว่ากระเพาะอาหาร ทำให้กรดไม่สามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาได้
- นอนยกศีรษะให้สูงกว่าลำตัวประมาณ 6 - 8 นิ้ว ด้วยการหนุนหมอนหรือปรับเตียง
6. การไม่สวมเสื้อผ้ารัดแน่น
การสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น โดยเฉพาะบริเวณช่วงเอวหรือหน้าท้อง เป็นการเพิ่มความดันในช่องท้อง กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน ควรสวมเสื้อผ้าที่หลวม ใส่สบาย ปลดเข็มขัดหรือเครื่องประดับที่รัดแน่น
7. การหยุดพฤติกรรมสูบบุหรี่
หากไม่อยากมีอาการกรดไหลย้อน ต้องหยุดพฤติกรรมสูบบุหรี่โดยด่วน เพราะสารในบุหรี่มีส่วนทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารเสื่อมสภาพหรือคลายตัว ส่งผลให้กรดสามารถไหลย้อนขึ้นหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว ดังนั้น การหยุดพฤติกรรมสูบบุหรี่ จึงเป็นวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม
8. การจัดการความเครียด
การมีความเครียดสะสม จะเพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ ทางที่ดี ควรจัดการกับความเครียดจากการทำงานหรือเรียนด้วยการหางานอดิเรกที่ชอบหรือทำกิจกรรที่ช่วยผ่อนคลาย ออกกำลังกาย พบปะกับกลุ่มเพื่อน เพื่อสุขภาพจิตที่ดี และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีแก้กรดไหลย้อนแบบธรรมชาติ ที่จะช่วยบรรเทาอาการทรมานจากกรดไหลย้อนได้ อย่างไรก็ตาม หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วแต่อาการยังไม่หายหรือยังไม่ดีขึ้น ก็สามารถทานยาลดกรดและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนจากประเทศอังกฤษ ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติอย่างสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาลจากประเทศนอร์เวย์ ช่วยสร้างแพเจลที่แข็งแรงกว่า ป้องกันกรดไหลย้อนได้ดี อีกทั้งยังปลอดภัย สามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และเด็ก (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้) ด้วย 2 กลไกการออกฤทธิ์ ทั้งช่วยปรับสภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลาง ควบคู่ไปกับการสร้างแพเจลลอยตัวเหนือกรดในกระเพาะ ป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง